หลังคาของคุณเหมาะกับการ ติดตั้งโซล่าเซลล์หรือไม่? ค่าไฟแพงจะทำอย่างไร วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นการใช้พลังงานทดแทนก็คือ พลังงานแสงอาทิตย์ในบ้านคือการติดตั้ง โซล่ารูฟท็อป โดยโซล่ารูฟสามารถลดต้นทุนพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในบ้านของคุณได้มาก ดังนั้น โซล่ารูฟท็อป จึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน อีกทั้งคุณสามารถ ติดตั้งโซล่าเซลล์ด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ และหากบ้านของคุณไม่มีพื้นที่เพียงพอ โซล่ารูฟท็อป ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี แต่ก่อนที่จะติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ ต้องพิจารณาว่าหลังคาของคุณเหมาะกับการใช้งานหรือไม่ หรือถ้าไม่มั้นใจสามารถ ปรึกษาทีมงาน Enrich Energy เรายินดีให้คำปรึกษาฟรี
เช็คมุมการวางแนวของหลังคา ที่รับแสงได้ดี
โดยปกติองศาจะอยู่ ระหว่าง 30 ถึง 45 องศาถือเป็นมุมที่เหมาะสำหรับแผงโซล่าเซลล์ หากคุณลดความเอียงของหลังคาลง 5 องศา การผลิตไฟฟ้าจะลดลงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่มุมหลังคาไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของแผงโซล่าเซลล์มากเท่าการวางแนวของหลังคา โดยส่วนใหญ่แล้วหลังคาจะมีการหันไปทางทิศตะวันตก ส่วนหลังคาที่หันไปทางทิศตะวันออกจะลดปริมาณพลังงานที่ระบบสร้างขึ้นถึงร้อยละ 10-20 ดังนั้นการหันหลังคาไปทางทิศใต้ถือเป็นทิศทางที่ดีทีสุด เนื่องจากสามารถสร้างพลังงานได้มากที่สุด แต่หากคุณต้องการใช้พลังงานมาก การหันหลังคาไปทางทิศตะวันตกถือเป็นทิศทางที่ดีที่สุด
ไม่มีร่มเงา บดบังแสงแดด
แผงโซล่าเซลล์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเท่านั้น หากบ้านของคุณล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงหรือมีร่มเงาเกือบตลอดทั้งวัน แผงโซล่าเซลล์จะไม่สามารถรับแสงแดดได้อย่างเต็มที่ สร้างพลังงานอย่างเต็มที่
วัสดุของหลังคา
แผงโซล่าเซลล์สามารถติดตั้งได้กับหลังคาทุกประเภท แต่หลังคาประเภทไหนที่เหมาะสมที่สุด
กระเบื้อง: หลังคากระเบื้องมีหลายประเภท เช่น กระเบื้องโลหะ, กระเบื้องเซรามิก, กระเบื้องคอมโพสิต, กระเบื้องคอนกรีต, กระเบื้องบิทูมินัส, และกระเบื้องหิน ผู้ติดตั้งควรติดแผงโซล่าเซลล์เข้ากับขายึดเพื่อยกแผงขึ้นและเหลือพื้นที่ด้านล่างไว้
โลหะ: หลังคาโลหะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่นานกว่าแผงโซล่าเซลล์ ดังนั้นหลังคาโลหะจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากมีต้นทุนต่ำและอยู่กับแผงโซล่าเซลล์ได้นาน
หลังคาน้ำมันดิน & กรวด: หลังคาประเภทนี้บำรุงรักษายาก คุณจึงต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อช่วยในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์
หลังคา Torch down: มักใช้สำหรับหลังคามุมต่ำและหลังคาแบนราบ ทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรง แต่มีราคาแพงกว่าหลังคาประเภทอื่น ๆ จึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์
หลังคาโฟม: ด้วยคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบา, ไร้รอยต่อ, ทนทาน, ประหยัดพลังงาน, ติดตั้งง่าย, ป้องกันความชื้นและการถ่ายเทความร้อนได้ดี หลังคาโฟมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์
หลังคาไม้: แม้ว่าจะสามารถติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาประเภทนี้ได้ แต่หลังคาประเภทนี้ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด คุณต้องใช้ชิงเกิ้ล (shingle) ช่วยในการติดตั้งแผง
อายุและขนาดของหลังคา
ส่วนสำคัญที่ควรนำมาพิจารณาคืออายุของหลังคา ระบบโซล่าเซลล์ (Solar cell system) ส่วนใหญ่รับประกันที่อายุการใช้งาน 25 ปี ดังนั้นอายุการใช้งานของหลังคาจะต้องนานกว่านั้น โดยปกติแล้วแผงโซล่าเซลล์แต่ละแผงต้องใช้พื้นที่ประมาณ 15 ตารางฟุต ดังนั้นคุณจะต้องมีพื้นที่หลังคาประมาณ 300 ตารางฟุตเพื่อให้บ้านได้รับพลังงานที่เพียงพอ
สรุป
หลังคาแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์แตกต่างกันไป ดังนั้นให้มองถึงองค์ประกอบโดยรวมถึงความเป็นไปได้ว่าควรติดตั้งหลังคาประเภทไหน หรือถ้าไม่มั่นใจ สามารถ ติดต่อทีมงาน Enrich Energy เราที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ฟรี
ENRICH ENERGY ผู้นำด้าน โซล่าเซลล์ แผงโซล่าเซลล์ อินเวอร์เตอร์ รับติดตั้งโซล่ารูฟท็อปครบวงจร โดยทีมงานโซล่าร์มืออาชีพ
สนใจ โซล่ารูฟท็อป หรือ อินเวอร์เตอร์ สามารถติดต่อเราได้ที่ 065-845-8698
ต้องการทราบรายละเอียดการติดตั้งระบบ โซล่ารูฟท็อป คลิก